ข่าวคราวกีฬาล่าสุด ผลบอลทั่วโลก เกมส์สนุกๆ

ไม่รู้ว่ามีเจตนาว่ากระทบคู่แข่งร่วมลีก และคู่แข่งร่วมเมืองอย่างเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ หรือเปล่างานนี้สำหรับทางด้านของ โจเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อล่าสุดได้ออกมากล่าวในทำนองวิจารณ์การใช้เงินของบางทีมในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้แบบชี้ให้เห็นว่ามีการจ่ายเงินก้อนโตเพื่อแลกกับนักเตะที่ไม่ใช่ระดับท็อปของโลก

หลังก่อนหน้านี้เพิ่งจะได้พูดถึงดีลของ ไคลน์ วอล์คเกอร์ ว่า เรือใบสีฟ้า น่าจะถูก ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส โก่งค่าตัวไปกว่าเท่าตัวทีเดียว เมื่อต้องจ่ายเงินมากถึง 50 ล้านปอนด์แลกกับลายเซ็นนักเตะ

ทั้งนี้ เรือใบสีฟ้า ถือเป็นหนึ่งทีมที่ทุ่มเงินช้อปปิ้งอย่างสุดระห่ำในตลาดซัมเมอร์นี้ เมื่อพวกเขาควักเงิน 40 ล้านปอนด์คว้าแบร์นาโด้ ซิลวา 52 ล้านปอนด์คว้า เบนจามิน เมนดี้ มาจาก อาแอส โมนาโก

50 ล้านปอนด์ คว้า ไคลน์ วอล์คเกอร์ จาก ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส และ 26.5 ล้านปอนด์คว้า ดานิโล่ มาจาก เรอัล มาดริด

ขณะที่ปีศาจแดงของนายใหญ่เดอะ สเปเชี่ยลวันก็ทุ่มจัดหนักจ่ายค่าตัว 75 ล้านปอนด์แลกกับลายเซ็นของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยมจาก เอฟเวอร์ตัน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าดูจากตัวเลขแบบเทียบเป็นรายตัวนักเตะแล้วเร้ดเดวิลส์จะจ่ายแพงกว่าเรือใบ แต่ล่าสุด มูรินโญ่กลับออกมากล่าวแบบกระทบคู่ปรับร่วมเมืองว่า

“หากดูที่เกรดนักเตะแล้วทีมตนเองถือว่าได้ทำในสิ่งที่คุ้มค่ากว่าเยอะ เพราะจ่ายเพื่อนักเตะระดับท็อปเช่นเดียวกับเมื่อตลาดนักเตะซัมเมอร์ปีก่อนที่ทุ่มค่าตัวสถิติโลกคว้า พอล ป็อกบา ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาถ้าคุณจ่ายเงินก้อนโตเพื่อนักเตะอย่าง ป็อกบา หรือ เนย์มาร์ แต่มันจะเป็นปัญหาหากคุณจ่ายเพื่อนักเตะเกรดรองลงมา ซึ่งมีเยอะในตลาดนักเตะ”

“ดีลแบบ ป็อกบา หรือ เนย์มาร์ มันจะเกิดสักแค่หนึ่งหรือสองครั้งในตลาดนักเตะแต่ละรอบ เดี๋ยวเราเห็นการซื้อตัวผู้เล่นด้วยเงิน 30 40 และ 50 ล้านปอนด์กันเยอะมากเลย นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นห่วง”